Red Candle Games ปล่อยตัวอย่าง Nine Sols – 2D Action Platformer

Red Candle Games ปล่อยตัวอย่าง Nine Sols – 2D Action Platformer

Red Candle Games ทีมงานผู้พัฒนาเกมส์สยองขวัญชื่อดัง Devotion ได้ปล่อยตัวอย่างของเกมส์ Nine Sols – 2D Action Platformer ที่ดูเป็นการผสมผสานระหว่าง Hollow Knight และ Sekiro: Shadows Die Twice (21 มี.ค. 2565) Red Candle Games ทีมงานผู้พัฒนาเกมส์สยองขวัญสัญชาติไต้หวันชื่อดัง ผู้เคยฝากผลงานไว้กับเกมส์สยองขวัญลือชื่อ Devotion และ Detention ได้ทำการปล่อยตัวอย่างสำหรับการระดมทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาเกมส์พัฒนาของสตูดิโอ – Nine Sols

โดยตัวเกมส์นั้นเป็นในรูปแบบของ 2D Action Platformer ที่มีองค์ประกอบของ RPG 

เข้าไปบางส่วน ซึ่งจากตัวอย่างนั้น เกมส์นี้ได้ให้ความรู้สึกถึงการผสมผสานกันระหว่าง Hollow Knight และ Sekiro: Shadows Die Twice ที่ซึ่งทางทีมงานเองก็ได้อธิบายไว้เช่นกันว่า “ตัวเกมส์จะมีองค์ประกอบของการต่อสู้ที่เน้นไปในการโต้กลับ ที่ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Sekiro”

ทางด้านของธีมในเกมส์นี้แล้วนั้นทางทีมงานก็บอกว่าจะเป็นในรูปแบบของ “Taopunk” หรือจะให้อธิบายแบบหยาบก็คือการนำเอาองค์ประกอบทางเทคโนโลยีมารวมเข้ากับความเป็นลัทธิเต๋า ที่จะมีเป็นกลิ่นอายของจีนเดิม รวมเข้ากับความเป็นเหล็ก และเทคโนโลยีทันสมัยเป็นหนึ่งเดียวกัน

ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปว่าตัวเกมส์นี้นั้น ยังอยู่ในช่วงการระดมทุนเพื่อพัฒนาตัวเกมส์ โดยในเวลานี้สามารถระดมไปได้แล้วถึง 3,000,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (New Taiwan dollar -NT$) หรือก็คือประมาณ $105,000

และระดับการสมทบทุนสูงสุดที่เป็นเงิน 1,000 ดอลลาร์ได้หมดลงไปแล้ว ซึ่งสิทธิประโยชน์ของระดับนี้ก็คือจะได้รับเชิญให้มีส่วนร่วมในการเขียนเรื่องสั้นภายในเกมส์ได้ สำหรับผู้ที่สนใจในตัวเกมส์และอยากสนับสนุนนั้นก็สามารถทำได้โดยเริ่มต้นที่ 20 ดอลลาร์ ที่จะได้รับตัวเกมส์แบบดิจิทัลไปด้วย

ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย จากความสำเร็จของเกมส์สยองขวัญชื่อดังทั้ง 2 เกมส์ ทำให้มีผู้ให้ความสนใจในตัวทีมเป็นอย่างมาก (รวมถึงประวัติในการปล่อยตัวเกมส์ของตัวเกมส์) ก็ต้องมาดูกันว่าเกมส์นี้จะประสบความสำเร็จในรูปแบบเดียวกันหรือไม่

Gran Turismo 7 ได้รับคะแนนผู้ใช้งานต่ำที่สุด (สำหรับ Sony) บน Metacritic

Gran Turismo 7 เกมส์แข่งรถชื่อดังประจำ PlayStation 4-5 ถูกเสียงตอบรับผู้ใช้งานถล่มยับบน Metacritic โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการเล่นแบบออฟไลน์ และการซื้อขายภายในเกมส์ (19 มี.ค. 2565) หลังจากที่ได้ปล่อยตัวเกมส์ออกไปอย่างเป็นทางการแล้ว กับเกมส์แข่งรถชื่อดังประจำเครื่องเล่น PlayStation ในที่นี้สำหรับ PS4-PS5 กับ Gran Turismo 7 เกมส์ภาคล่าสุดที่ในเวลานี้ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานได้แย่ที่สุดในบรรดาเกมส์ของ Sony บนเว็บไซต์ Metacritic

โดยคะแนนที่ทำไปได้นั้น ในเวลานี้อยู่ที่ 2.0 คะแนน (เต็ม 10) จากผู้ใช้งานทั้งหมด 5352 ราย (โหวตแย่ 3,187 ราย) ทำให้อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นถือว่าเป็นเกมส์ที่ได้รับคะแนนน้อยที่สุดจาก PlayStation Studios Sony Interactive Entertainment, SCEA, SCEE และ SCEJ นับว่าสวนทางกับคะแนนจากนักวิจารณ์ที่ได้ไป 87 คะแนน (เต็ม 100)

ซึ่งผลวิจารณ์ดังกล่าวนั้น มีมาจาก 2 ปัจจัยหลักด้วยกัน 1) Patch ที่มาเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยได้ทำการลดจำนวนเงินภายในเกมส์ที่ได้จากการแข่งขัน ทำให้ผู้เล่นนั้นต้องใช้เวลาในการเล่นเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็นต่อการปลดล็อครถยนต์ภายในเกมส์ หากผู้เล่นไม่ต้องการที่จะเสียเงินในการซื้อขายภายในเกมส์ (microtransactions)

2) ตัวเกมส์ประสบกับปัญหาทางด้านระบบเป็นระยะเวลามากกว่า 24 ชม. (ในระหว่างวันที่ 17-18 มี.ค.) ที่ซึ่งทำให้ตัวเกมส์อยู่ในสถานะที่แทบจะเล่นไม่ได้เนื่องจากเนื้อหาส่วนใหญ่ภายในเกมส์นั้น ต้องการการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

โดยถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ Patch ที่ได้กล่าวไปนั้น ก็มีการคำนวนมาแล้วว่ารถยนต์บางคันในตัวเกมส์ GT7 มีราคาสูงกว่าที่เคยวางขายใน GT Sport ถึง 8 เท่าด้วยกัน

พร้อมกันกับที่เว็บไซต์ของแฟนเกมส์ปฟรนไชน์นี้ – GTPlanet ได้ทำการวิเคราะห์ถึงตัวเกมส์ภาคนี้ไว้ว่า ผู้เล่นจะต้องทำการใช้เวลาเล่นบดไปจนเกือบ 20 ชม. ถึงจะสามารถทำการซื้อรถยนต์ที่แพงที่สุดในเกมส์ได้ “เพียงแค่คันเดียว” โดยถือว่าต้องใช้เวลานานกว่าเกมส์ภาคก่อน ๆ เลยทีเดียว

นอกจากแล้วนั้นยังมีการพูดถึงในส่วนของ Loots Boxes ที่ถูกมองว่ามีการล็อคผลให้ผู้เล่นต้องซื้อเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้อัตราสุ่มที่ดี หรือให้ได้รถยนต์ในระดับที่สูงเพียง 1 คัน, ราคาเงินจริงที่ต้องซื้อรถยนต์ภายในเกมส์นั้น ถือว่าสูงเกินไปเป็นอย่างมาก ($38 – 1,200 กว่าบาท ต่อ Ford GT เพียงแค่ 1 คัน)

ทางหัวหน้าใหญ่ของแฟรนไชน์นี้ Kazunori Yamauchi ได้กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า การดำเนินการปรับเปลี่ยนของการซื้อขายภายในเกมส์นั้น จะมีการแก้ไขภายในการอัปเดตครั้งต่อไป (ที่ไม่ได้มีการระบุไว้) และการที่รถยนต์มีราคาสูงขึ้นนั้น ก็เพื่อที่จะสะท้อนความหายาก และมูลค่าของมัน รวมไปถึงมีการเชื่อมโยงกับราคาในโลกจริงด้วย

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า